Mail Server ในไทย บริษัทไหนดีที่สุด เพื่อทำเป็นระบบอีเมล์องค์กร

Mail Server ในประเทศไทย ที่ไหนดี ?
คำถามที่แสนจะคลาสสิคของพนักงานที่ทำงานในออฟฟิต แล้วโดนมอบหมายให้มาหาข้อมูลเกี่ยวกับ Mail Server ในประเทศไทยเพราะบริษัทของคุณต้องการมีอีเมล์ @ชื่อบริษัทตัวเอง แทนการใช้ฟรีอีเมล์ หากคุณได้มีความรู้ด้าน Network หรือ จบ IT มา ผู้เขียนขอเรียนตรงๆ ว่าคุณกำลังเผชิญกับเรื่องที่มีความท้าทาย เพราะการเลือก Mail Server เป็นเรื่องที่มีความละเอียดซับซ้อนมากกว่าที่คุณจะคิดว่า มันมีหน้าที่แค่รับและส่งอีเมล์เท่านั้น แต่มันมีปัญหาอะไรอีกมากมายที่คุณไม่เคยรู้

ปัญหาของ Mail Server ที่คุณควรรู้ก่อนเลือกซื้อ
ดังที่กล่าวไปข้างต้นแล้วว่า Mail Server มันไม่ได้มีหน้าที่ทำงานรับและส่งอีเมล์เท่านั้น แต่มีปัญหามากมายที่ผู้คนที่ใช้ Mail Server ประสบอยู่ และเป็นปัญหาเรื้อรังที่หลายๆบริษัทต้องทนกับสภาพเหล่านั้น โดยปัญหาที่พบมีดังนี้

  1. ไม่สามารถส่งอีเมล์ไปหา ผู้รับที่เป็น @hotmail, @gmail, @yahoo ได้ เพราะ Mail Server ตัวเองติด Blacklist และบางครั้งอาจจะส่งหาใครไม่ได้เลย
  2. Mail Server ล่ม คุณต้องเข้าใจอย่างหนึ่งว่าการที่นำระบบ Email ไปใช้ในบริษัท หรือกระบวนการทางธุรกิจนั้น คือการใช้งานแบบ Realtime หรือห้ามล่ม, ห้ามป่วย, ห้ามมีปัญหา ซึ่งสิ่งเหล่านี้เรียกว่าความเสถียร หากคุณเลือกซื้อผิดๆ คุณอาจจะได้ใช้ระบบอีเมล์ที่ล่มวันละ 2-3 ครั้ง เท่ากับว่าบริษัทของคุณไม่ต้องทำอะไรกันพอดี
  3. ใช้ในอุปกรณ์สื่อสารพวก SmartPhone ไม่ได้จริง ผู้ให้บริการ Mail Server ในประเทศไทย มักโฆษณาว่ารองรับการใช้งานบน iPhone, iPad, Samsung หรือ รองรับหมด แต่เมื่อคุณใช้งานเข้าจริง มันไม่ได้เป็นอย่างนั้น ปัญหาที่ผู้คนทั่วไปพบเลยคือ ข้อมูลในมือถือกับในเครื่องโชว์ไม่เหมือนกัน เพราะว่าผู้ให้บริการ Mail Server ในประเทศส่วนใหญ่ ไม่ได้รองรับเทคโนโลยี IMAP จริงๆ
  4. Email Delay หากแปลเป็นไทยเลย คือ เวลาคุณส่งอีเมล์เรียบร้อยแล้วโดยปกติปลายทางควรจะได้รับทันที แต่ปัญหาที่พบบ่อยๆ คือ ส่งไปแล้วกว่าปลายทางจะได้รับก็ต้องรอ 2-3 ชั่วโมง ซึ่งในบางครั้งอาจจะต้องรอตั้งครึ่งถึงหนึ่งวันเต็มๆ กว่าปลายทางจะได้รับ ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ตลกมากจริงๆ แต่มันไม่ตลกเลย ถ้าเจอปัญหาแบบนี้ในการทำงาน

และเราจะเลือกซื้อ Mail Server อย่างไรดี
จากประสบการณ์ของผู้เขียน ทั้งทางตรง และจากเพื่อนๆในสายอาชีพต่างตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า ถ้าจะซื้ออะไรพวกนี้ควรจะซื้อกับบริษัทใหญ่ๆ ที่มีความน่าเชื่อถือ เพราะเวลามีปัญหาจะได้โทรไปถามหรือให้เค้าแก้ไขให้ได้ ซึ่งผมยอมรับว่าเป็นเรื่องจริง ถึงแม้ราคาจะต่างกันไม่รู้กี่เท่าก็ตาม เราจึงขอเขียนเป็นข้อๆ ได้ดังนี้

  1. ควรเลือกซื้อ Mail Server จากบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือ และสามารถติดต่อได้ แม้ราคาจะแพงกว่า แต่เงินที่แพงกว่านี้สำหรับธุรกิจคุณมันถือว่าน้อยมากๆ
  2. ต้องติดต่อผู้ให้บริการ Mail Server ได้เสมอ บริษัทที่ให้บริการ Mail Server ในไทย หากคุณต้องการทดสอบว่าสามารถติดต่อได้ตลอดจริงหรือไม่ ง่ายๆเลยคุณก็ลองติดต่อเค้าบ่อยๆ ถามนู่นถามนี่หลายๆครั้ง ถ้าเค้ายังคอยตอบข้อสงสัยคุณอยู่ ก็แปลว่าติดต่อได้ง่าย
  3. Mail Server ต้องมีความปลอดภัยสูง เป็นที่แน่ชัดว่าข้อมูลใน Mail Server ทั้งหมด เป็นความลับสูง จน ไม่รู้จะสูงอย่างไร แล้วยิ่งเก็บอยู่ในรูปแบบ Server หรือดิจิตอล ที่เราไม่สามารถจับต้องได้ แล้วคุณจะมั่นใจได้อย่างไรว่าข้อมูลของบริษัทคุณนั้นจะถูกเก็บเป็นความลับ ดังนั้นคุณควรเลือกซื้อกับบริษัทที่ได้ใบรับรองด้านความปลอดภัยของข้อมูลที่เป็นมาตรฐานสากล เพราะก่อนที่บริษัทเหล่านั้นจะได้ใบรับรอง เค้าต้องได้รับการตรวจสอบก่อนที่จะเปิดขายในเว็บได้
  4. ต้องมีรูปแบบการ Support หรือ ให้บริการที่หลากหลาย ตั้งแต่การโต้ตอบทางอีเมล์, Chat, ระบบ Ticket มากไปกว่านั้นต้องมีระบบ Remote Support ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมากซึ่งเป็นการควบคุมหน้าจอระยะไกล ระหว่างเครื่องคุณกับบริษัทผู้ให้บริการ Mail Server ทำให้คุณไม่ต้องไปนั่งเล่าว่าตอนนี้หน้าจอของฉันเป็นอย่างนู้นอย่างนี้ เชื่อสิว่าคุยกันไม่รู้เรื่องหรอก